ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ
บริษัท เบเนฟินน์ จำกัด (“ผู้ให้บริการ") เป็นเจ้าของและผู้จัดการเว็บไซต์และแอพลิเคชั่น (“แพลตฟอร์ม”) นี้ การใช้งานบนแพลตฟอร์มจำป็นต้องเป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการ (“ข้อกำหนดและเงื่อนไข”) ฉบับนี้หรือฉบับแก้ไขอื่นๆ ดังนั้น กรุณาศึกษาและทำความเข้าใจในข้อกำหนดและเงื่อนไขทั้งหมดโดยละเอียดก่อนเข้าใช้งาน หากผู้ใช้บริการไม่ตกลงตามข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ หรือฉบับแก้ไขอื่นๆ ผู้ให้บริการสงวนสิทธิที่จะไม่อนุญาตให้ผู้ใช้บริการใช้งานแพลตฟอร์ม
เนื่องจากการยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขดังกล่าวมีความจำเป็นต่อการให้บริการของผู้ให้บริการ และเพื่อคุ้มครองสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของผู้ให้บริการ ทั้งนี้ผู้ให้บริการจะถือว่าผู้ใช้บริการตกลงและยอมรับ ข้อกำหนดและเงื่อนไขของผู้ให้บริการทั้งหมดทุกประการตลอดระยะเวลาทีผู้ใช้บริการยังคงใช้งานแพลตฟอร์มอยู่
1. นิยาม
1.1 "ผู้ใช้บริการ" "ท่าน" "ของท่าน" หมายถึง พนักงานผู้มีคุณสมบัติตามที่ผู้ให้บริการกำหนด ซึ่งมีความประสงค์จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของแพลตฟอร์ม เพื่อขอใช้บริการต่างๆ ของผู้ให้บริการ
1.2 "ผู้ให้บริการ" "เรา" "ของเรา" หมายถึง บริษัท เบเนฟินน์ จำกัด และ/หรือบริษัทในเครือของบริษัท บริษัท เบเนฟินน์ จำกัด
1.3 "แพลตฟอร์ม" "ระบบ" หมายถึง เว็บไซต์ แอพลิเคชั่น หรือช่องทางอื่นทั้งทางออนไลน์หรือออฟไลน์ที่ผู้ให้บริการจัดเตรียมและให้บริการต่างๆ แก่ผู้ใช้บริการ
1.4 "บริการ" หมายถึง บริการจ่ายเงินเดือนเบิกล่วงหน้า และบริการอื่น ๆ ในอนาคตของผู้ให้บริการ
1.5 "บริษัท" หมายถึง นิติบุคคลที่เป็นนายจ้างของผู้ใช้บริการ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงห้างหุ้นส่วนสามัญ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด และ/หรือบริษัทมหาชน
1.6 "พนักงาน" หมายถึง บุคคลธรรมดาที่เป็นพนักงานของบริษัทที่ได้สมัครเป็นสมาชิกของแพลตฟอร์ม
1.7 "คำขอ" หมายถึง คำสั่ง ขอเบิกเงินเดือนล่วงหน้าที่ผู้ใช้บริการทำรายการผ่านแพลตฟอร์ม
1.8 "ค่าธรรมเนียม" หมายถึง ค่าธรรมเนียมการใช้บริการ
1.9 "ข้อมูลทรัพยากรบุคคล" หมายถึง ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงประวัติส่วนบุคคล
ข้อมูลเงินเดือน ข้อมูลการลางาน ข้อมูลการทำงานล่วงเวลา ข้อมูลสิทธิประโยชน์พนักงาน หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่ผู้ให้บริการ
กำหนดเพิ่มเติมในภายหลัง
1.10 "ข้อกำหนดและเงี่อนไข" หมายถึง ข้อกำหนดและเงี่อนไขการให้บริการฉบับนี้และ/หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในภายหลัง
2. ข้อกำหนดและเงื่อนไขการลงทะเบียนเข้าใช้งานและใช้บริการบนแพลตฟอร์ม
2.1 ผู้ใช้บริการต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานของการเป็นสมาชิกตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้
2.1.1 ผู้ใช้บริการจะต้องเป็นพนักงานปัจจุบันของบริษัทที่ได้เข้าทำสัญญาหรือข้อตกลงกับผู้ให้บริการ
2.1.2 ผู้ใช้บริการจะต้องมีคุณสมบัติอื่นๆ ตามข้อกำหนดหรือเงื่อนไขที่ผู้ให้บริการแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ
2.2 ผู้ใช้บริการต้องยืนยันตัวตนโดยใส่ชื่อและรหัสผ่านก่อนการเข้าใช้บริการบนแพลตฟอร์มทุกครั้ง ทั้งนี้ผู้ใช้บริการรับทราบว่าการระบุ/ป้อนชื่อและรหัสผ่านดังกล่าวเข้าสู่ระบบเป็นการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ของผู้ใช้บริการในการทำธุรกรรมผ่านทางระบบของผู้ให้บริการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544
2.3 ในกรณีที่ผู้ให้บริการไม่ได้รับข้อมูลที่เพียงพอหรือไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ใช้บริการได้ผู้ให้บริการจะขอให้ผู้ใช้บริการนำส่งสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมตามคำขอของผู้ให้บริการ หากผู้ใช้บริการไม่สามารถมอบเอกสารทที่ผู้ให้บริการร้องขอดังกล่าวได้ ผู้ให้บริการอาจระงับหรือจำกัดการใช้บริการของผู้ใช้บริการบนแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการตามความเหมาะสม เมื่อผู้ใช้บริการลงทะเบียนเข้าสู่ระบบและใช้บริการบนแพลตฟอร์ม ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ ดังต่อไปนี้
2.4 ผู้ใช้บริการตกลงให้ผู้ให้บริการหักค่าธรรมเนียมการใช้บริการจากยอดจำนวนเงินที่ผู้ใช้บริการขอเบิกถอนผ่านแพลตฟอร์ม โดยผู้ใช้บริการสามารถเข้าไปดูรายละเอียดการเบิกล่วงหน้าได้ใน “ประวัติการทำธุรกรรม" ทั้งนี้รายละเอียดทีเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์ม จะถือเป็นใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์กรณีผู้ใช้บริการประสงค์จะให้ผู้ให้บริการออกใบเสร็จรับเงินที่ไม่ใช่วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ผู้ใช้บริการสามารถแจ้งมายังเจ้าหน้าที่เพื่อ ดำเนินการออกใบเสร็จดังกล่าวได้ในช่วงเวลาทำการของบริษัท
2.5 ผู้ใช้บริการรับทราบและยอมรับว่า เมื่อผู้ใช้บริการตกลงใช้บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้า ผู้ใช้บริการจะได้รับเงินเดือนส่วนที่เหลือหลังจากหักยอดเงินเบิกเงินล่วงหน้าและค่าธรรมเนียมแล้ว
2.6 ผู้ใช้บริการรับทราบว่าการกระทำใดๆ ที่ผู้ใช้บริการได้ทำในระบบหรือแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการต้อง
รับผิดชอบเสมือนเป็นผู้ดำเนินการดังกล่าวโดยตนเองแต่เพียงผู้เดียว
2.7 ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ตรวจสอบและอัพเดทข้อมูลทรัพยากรบุคคลของตนให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ หากพบว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้องและไม่สามารถดำเนินการแก้ไขได้ให้แจ้งผู้ให้บริการทราบโดยทันทีผ่านเจ้าหน้าที่
2.8 เมื่อผู้ใช้บริการตรวจสอบพบว่าคำขอของท่านยังมิได้รับการพิจารณาหรืออนุมัติเกินกว่า 24 ชั่วโมง ผู้ใช้บริการจะต้องแจ้งให้ผู้ให้บริการทราบผ่านเจ้าหน้าที่ภายใน 48 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการไม่ต้องรับผิดชอบต่อความล่าช้า
ที่ เกิดจากบุคคลภายนอก ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงธนาคารพาณิชย์ซึ่งเป็นคู่ค้าของผู้ให้บริการ
2.9 ผู้ใช้บริการตกลงที่จะใช้แพลตฟอร์ม เพียงเพื่อใช้บริการของผู้ให้บริการและด้วยวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น
3. สิทธิและหน้าที่ของผู้ใช้บริการ
3.1. ผู้ใช้บริการมีสิทธิใช้บริการบนแพลตฟอร์ม ตามสิทธิที่ผู้ให้บริการกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
3.1.1 การทำคำขอเบิกเงินเดือนล่วงหน้าตามที่ ผู้ให้บริการกำหนด
3.1.2 สิทธิอื่นใดตามที่ บริษัทหรือผู้ให้บริการกำหนดเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราว
3.2 ผู้ใช้บริการตกลงที่จะทำความเข้าใจและยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขโดยละเอียดก่อนการลงทะเบียนเข้าใช้งาน และใช้บริการบนแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการ
3.3 ชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่าน สำหรับการเข้าสู่ระบบของผู้ใช้บริการถือเป็นทรัพย์สินของผู้ใช้บริการ ดังนั้นผู้ใช้บริการจะต้องเก็บรักษารหัสดังกล่าวไว้เป็นความลับ และไม่เปิดเผยให้แก่บุคคลอื่นรับทราบ ในกรณีที่มีบุคคลอื่นล่วงรู้รหัสผ่าน หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีบุคคลอื่นล่วงรู้รหัสผ่านโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้ใช้บริการจะต้องแจ้งผู้ให้บริการทราบโดยทันที ทั้งนี้หากผู้ใช้บริการละเว้นในการกระทำดังกล่าว ผู้ให้บริการจะถือว่าการกระทำการใดๆ บนแพลตฟอร์มเป็นการกระทำโดยชอบด้วยกฎหมายจากตัวผู้ใช้บริการเอง และผู้ให้บริการมิต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ทีเกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว
3.4 บัญชีผู้ใช้บริการและสิทธิการใช้บริการต่างๆ บนแพลตฟอร์ม ที่ผู้ใช้บริการได้ลงทะเบียน และ/หรือเข้าสู่ระบบ ถือเป็นบัญชีส่วนบุคคล ไม่สามารถโอนให้แก่บุคคลอื่นได้ อย่างไรก็ตามผู้ใช้บริการสามารถยกเลิกสถานะการเป็นผู้ใช้บริการได้ตามความประสงค์ของผู้ใช้บริการ
3.5 ผู้ใช้บริการมีสิทธิเปลี่ยนแปลงและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทรัพยากรบุคคลของตนที่ปรากฏใน “บัญชีผู้ใช้งาน”ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้ให้บริการทราบล่วงหน้า อย่างไรก็ตามในกรณีที่ผู้ใช้บริการตรวจสอบพบว่ามีรายละเอียดข้อมูลทรัพยากรบุคคลที่ไม่ถูกต้อง แต่ไม่สามารถดำเนินการแก้ไขได้ ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องแจ้งรายละเอียดข้อมูลที่ผิดพลาดดังกล่าวนั้นแก่ผู้ให้บริการทราบภายใน 3 วัน นับแต่วันที่ผู้ใช้บริการทราบ มิฉะนั้นให้ถือว่าผู้ใช้บริการรับทราบและยอมรับว่าข้อมูลที่ปรากฏในบัญชีผู้ใช้งานของผู้ใช้บริการนั้นถูกต้องสมบูรณ์แล้ว
3.6 ผู้ใช้บริการรับทราบว่าผู้ใช้บริการไม่มีสิทธิในการใช้งานแพลตฟอร์มเกินกว่าสิทธิที่ผู้ให้บริการหรือบริษัทกำหนด
3.7 ผู้ใช้บริการสามารถสอบถาม ขอรับคำแนะนำ ความช่วยเหลือทางด้านเทคนิค กับเจ้าหน้าที่ของผู้ให้บริการ ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 9.30-17:30 น. ผ่านช่องทาง e-mail: admin@benefinn.com หรือช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ที่ผู้ให้บริการจัดทำขึ้น
4. สิทธิและขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ให้บริการ
4.1 ผู้ให้บริการมีดุลยพินิจเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียวในการรับหรือปฏิเสธการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการ
4.2 ผู้ให้บริการมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลทรัพยากรบุคคลของผู้ใช้บริการตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ให้บริการ และหลังจากที่ได้รับความยินยอมจากบริษัท และ/หรือ ผู้ใช้บริการแล้วเท่านั้น
4.3 การให้บริการใดๆ บนแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการเป็นการให้สิทธิแก่ผู้ใช้บริการในการเข้าใช้ระบบหรือแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการเท่านั้น โดยไม่ถือเป็นการโอนสิทธิหรือสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาใดๆ แก่ผู้ใช้บริการหรือบุคคลภายนอก
4.4 ผู้ให้บริการมีสิทธิในการพิจารณาระงับการให้บริการระบบแก่ผู้ใช้บริการทั้งหมดหรือบางส่วน ไม่ว่าด้วยเหตุใด ไม่ว่าถาวรหรือชั่วคราว ตามดุลยพินิจของผู้ให้บริการและความเหมาะสม โดยผู้ใช้บริการตกลงสละสิทธิใดๆ ทั่งปวงในการเรียกร้องความเสียหายที่ เกิดขี้นจากการระงับการให้บริการระบบดังกล่าว
4.5 ผู้ให้บริการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการตามข้อมูลที่ผู้ใช้บริการได้กรอกเข้าสู่ระบบ โดยผู้ให้บริการไม่มีหน้าที่ในการตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้น ๆ ผู้ให้บริการจะไม่รับผิดชอบต่อข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และ/หรือ ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ของผู้ใช้บริการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
4.6 การให้บริการของผู้ให้บริการเป็นการประมวลผลโดยอัตโนมัติของระบบคอมพิวเตอร์ดังนั้น ผู้ใช้บริการตกลงและรับทราบว่าระบบคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการอาจขัดข้องหรืออาจเกิดการประมวลผลที่ผิดพลาดได้ทั้งนี้ผู้ให้บริการจะดำเนินการแก้ไขความขัดข้องหรือความผิดพลาดของระบบคอมพิวเตอร์โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามผู้ให้บริการไม่มีความรับผิดใดๆ ต่อผู้ใช้บริการหรือบุคคลภายนอกในความเสียหายไม่ว่าจะเป็นความเสียหายโดยตรงหรือโดยอ้อม หรือความเสียหายต่อเนื่องที่เกิดขึ้นจากการขัดข้องหรือการประมวลผลที่ผิดพลาดดังกล่าว
4.7 ผู้ให้บริการไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสี่ยงหรือความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นแก่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์
อิเล็กทรอนิกส์ของผู้ใช้บริการจากการใช้งานบนแพลตฟอร์ม ผู้ใช้บริการมีหน้าที่รับผิดชอบในการปรับปรุง และบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่เหมาะสมบนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้ใช้บริการเอง อย่างไรก็ตามผู้ให้บริการจะใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่ เพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์ปราศจากโปรแกรมไวรัสและโปรแกรมไม่พึงประสงค์(malware) ที่อาจเป็นอันตรายกับการใช้งานแพลตฟอร์มของผู้ใช้บริการ
4.8 ผู้ให้บริการอาจส่งข้อมูลหรือข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการบนแพลตฟอร์มผ่านช่องทางต่างๆ แก่ผู้ใช้บริการ โดยให้ถือว่าผู้ใช้บริการตกลงและให้ความยินยอมในการรับข้อมูลและข่าวสารดังกล่าว และให้ถือว่าข้อมูลและข่าวสารดังกล่าวไม่เป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2560) ทั้งนี้ผู้ใช้บริการรับทราบว่าผู้ใช้บริการมีสิทธิบอกเลิกการรับข้อมูลข่าวสารดังกล่าวผ่านช่องทางที่ผู้ให้บริการจัดทำขึ้น แต่ผู้ใช้บริการจะไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นหรือเกี่ยวข้องสำหรับการทำธุรกรรมจากผู้ให้บริการซึ่งผู้ให้บริการจะไม่มีความรับผิดใดๆ จากกรณีที่ผู้ใช้บริการไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารดังกล่าว
5. การระงับการให้บริการ
ผู้ให้บริการสงวนสิทธิ์ในการจำกัด ระงับ หรือ ยกเลิก การให้บริการแก่ผู้ใช้บริการไม่ว่าจะเป็นการชั่วคราวหรือถาวร ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
5.1 ข้อตกลง และ/หรือ สัญญาอื่น ใดที่เกี่ยวข้องที่ทำขึ้นระหว่างผู้ให้บริการกับบริษัทสิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
5.2 ผู้ใช้บริการพ้นสภาพจากการเป็นพนักงานของบริษัทไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม
5.3 ผู้ใช้บริการละเมิดข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้หรือฉบับแก้ไขอื่น ๆ
5.4 ผู้ให้บริการมีเหตุอันสมควรสงสัยว่า และ/หรือ ผู้ใช้บริการให้ข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญไม่เป็นความจริง ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่สมบูรณ์
5.5 ผู้ใช้บริการใช้แพลตฟอร์มในลักษณะที่ผิดกฎหมายหรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ให้บริการ หรือบุคคลภายนอก ไม่ว่าในทางใดก็ตาม ทั้งนี้ภายหลังจากการระงับให้บริการ ให้ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการดำเนินการดังต่อไปนี้
5.6 ผู้ให้บริการสิ้นสุดหน้าที่ในการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการ และหลุดพ้นจากความรับผิดใดๆ ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้
5.7 ผู้ใช้บริการจะต้องระงับการใช้แพลตฟอร์มของผู้ให้บริการ และลบแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการออกจากคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ใช้บริการเป็นเจ้าของหรือครอบครองโดยทันที
5.8 ผู้ให้บริการมีสิทธิในการระงับการใช้งานของผู้ใช้บริการทั้งหมดโดยทันที โดยผู้ใช้บริการรับทราบว่าผู้ใช้บริการจะไม่
สามารถเข้าถึงระบบหรือแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการได้อีกต่อไป
5.9 ผู้ให้บริการมีสิทธิในการลบข้อมูลของผู้ใช้บริการหรือบริษัทของผู้ใช้บริการที่อยู่ในฐานข้อมูล หรือเซิร์ฟเวอร์ใดๆ ของผู้
ให้บริการทั้งหมดโดยทันที
5.10 ผู้ใช้บริการตกลงสละสิทธิในการต่อสู้หรือดำเนินคดีทางกฎหมายต่อผู้ให้บริการไม่ว่าด้วยกรณีใดๆ ก็ตาม
6. ข้อกำหนดอื่น ๆ
6.1 ผู้ใช้บริการรับทราบว่าข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ อาจมีการปรับปรุงแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราวได้เพื่อให้
เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของผู้ให้บริการ โดยผู้ให้บริการจะแจ้งผู้ใช้บริการให้ทราบถึงการปรับปรุง แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
6.2 ข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้ อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายไทย หากมีปัญหาหรือข้อพิพาทเกิดขึ้นอันเกี่ยวเนื่องกับ
ข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการจะ ทำการยื่นฟ้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจในประเทศไทย
6.3 ข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ได้รับการปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565
7. ช่องทางการติดต่อ และช่องทางการร้องเรียน
ถ้าผู้ใช้บริการมีความประสงค์ที่จะติดต่อผู้ให้บริการหรือส่งข้อสอบถามหรือข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์ม
สามารถติดต่อได้โดยผ่านเจ้าหน้าที่ของผู้ให้บริการ หรือ ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์: admin@benefinn.com
หรือ ช่องทางการสื่อสารอื่นที่บริษัทหรือผู้ให้บริการจัดทำขึ้น